วันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

จักรวาล

จักรวาล

จักรวาล คือรูปทรงมหึมาประกอบด้วย กาแลกซีต่างๆ นับ100,000,000,000 (แสนล้าน) กาแลกซี และกาแลกซีทางช้างเผือกเป็นส่วนประกอบย่อยเล็กๆ อันหนึ่งในกาแลกซีเหล่านั้น แต่เมื่อเทียบกับโลกแล้วกาแลกซีจะโตกว่ามากมายแสนคณานับ ไม่มีใครทราบว่า จักรวาลมีขอบเขตหรือจะไปได้ไม่สิ้นสุด นอกจากมวลสารที่กล่าวมาแล้วองค์ประกอบส่วนใหญ่เป็นที่ว่างหรือที่เรียนว่า อวกาศ อย่างไรก็ตามยังมีอะตอม ของไฮโดรเจน ประมาณ 1 อะตอมต่อ 1 ลูกบาศก์เซนติเมตร มีอุณหภูมิต่ำมาก ประมาณ 3 เคลวิน

กาแลกซี
กาแลกซีต่างๆ ในจักรวาล

ดวงอาทิตย์ โลกและดาวเคราะห์ทั้งหลายเป็นองค์ประกอบย่อยเล็กๆ ในกาแลกซีทางช้างเผือก นอกจากมวลสารที่เป็นดาวฤกษ์ซึ่งมองเห็นด้วยตาเปล่าแล้ว ยังมีมวลสารประหลาดเรียกว่า หลุมดำ ซึ่งไม่มีใครสามารถมองเห็นได้ หลุมดำสามารถดึงดูดทุกๆ สิ่ง ที่อยู่ใกล้เข้าไปในตัวของมัน แม้แต่แสงซึ่งเราคิดว่าเป็นพลังงาน ก็ยังถูกหลุมดำดึงดูดลงไปจนไม่มีทางที่จะมีแสงสะท้อนกลับออกมาได้ ดังนั้นหลุมดำจึงเป็นสิ่งที่ไม่สามารถมองเห็นได้เนื่องจากไม่มีแสงที่จะปราก ฎต่อสายตาหรือเครื่องมือใดๆแต่อาศัยปรากฏการณ์ที่มีแรงดึงดูดมหาศาลทำให้ดาว ฤกษ์ที่อยู่โคจรเข้าใกล้ถูกแรงดึงดูดทำให้แนวทางโคจรเปลี่ยนไป นักดาราศาสตร์ยืนยันว่าเป็นสิ่งที่มีอยู่จริงและประมาณว่ามวลสารส่วนที่เป็น หลุมดำมีมากกว่าส่วนที่เป็นมวลสารที่เรามองเห็นเสียอีก


กาแลกซีทางช้างเผือก

จักรวาลเกิดขึ้นเมื่อ 14,000 ล้านปีมาแล้ว สัญนิษฐานว่าเกิดมาจากการระเบิดครั้งยิ่งใหญ่ (big bang) มิติของสถานที่ และเวลาได้เกิดขึ้น ในบัดนั้น และได้มีรังสีคอสมิก (Cosmic Rays) กระจายออกไป มวลสารและพลังงานมหาศาลที่เกิดขึ้นได้พุ่งออกจากจุดเดียวกัน ต่อมาเมื่อ อุณหภูมิเย็นลงเหลือ 3300 เซลเซียส มวลสารค่อยจับตัวเป็นอะตอม มีการจับตัวของมวลสารกลายเป็นดาวฤกษ์มีแสงสว่างส่องออกมา และเกิดเทหวัตถุท้องฟ้า อีกหลายชนิด ดวงอาทิตย์ของเราก็ได้ก่อตัวขึ้นเมื่อประมาณ 4,600 ล้านปีมาแล้ว

จักรวาล มีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว เมื่อเวลาผ่านไปยิ่งมากอัตราการขยายตัวก็ยิ่งสูงขึ้นเป็นลำดับ และจักรวาลก็จะเย็นตัวลงตามลำดับและในที่สุดจะไม่มีดาวฤกษ์ดวงใดสามารถส่อง แสงได้อีกต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น